ครูฟิลิปปินส์ ตั้งสแตนดี้ นร. รอบห้อง เพิ่มกำลังใจ สอนออนไลน์

ครูฟิลิปปินส์ ตั้งสแตนดี้ นร. รอบห้อง เพิ่มกำลังใจ สอนออนไลน์

ครูชาวฟิลิปปินส์ ผุดไอเดีย ตั้งสแตนดี้ของนักเรียนและวางไว้ห้องเรียน เพื่อกำลังใจในการ สอนออนไลน์ หลังโควิดยังระบาดหนัก เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม สำนักข่าว ฟ็อกซ์ รายงานว่า นาย เจสัน เมแกน คุณครูประจำโรงเรียนประถมบูโรลประเทศฟิลิปปินส์ได้ปิ๊งไอเดียตัดสแตนดี้พร้อมติดหน้าของนักเรียน และตั้งไว้รอบๆห้อง เพื่อให้เขารู้สึกมีกำลังใจในการสอนออนไลน์ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

โดยนาย เมแกน เล่าว่า การได้เห็นหน้าเด็กๆทำให้เขารู้สึกมีกำลังใจในการสอนนักเรียน 

นอกจากนี้นาย เมแกน ยังเล่าอีกว่าการเรียนออนไลน์เป็นเรื่องยากลำบากทั้งสำหรับนักเรียนและคุณครู เนื่องจากบางพื้นที่ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต ทั้งนี้ทางการฟิลิปปินส์ตั้งเป้าจะให้โรงเรียนกลับมามีการเรียนการสอนภายในสถานศึกษาอีกครั้งได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้

ประเทศฟิลิปปินส์นั้นมียอดผู้ป่วยสะสมเกือบ 2,800,000 ราย และมีผู้เสียชีวืตจากโรคโควิด-19 แล้วมากกว่า 43,000 ศพ

คิชิดะ คว้าชัย เลือกตั้งญี่ปุ่น แบบลอยลำ นั่งเก้าอี้นายกฯต่อ ประกาศพร้อมทุ่มเงินหลายแสนล้านบาทเยียวยาเศรษฐกิจญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า นาย ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นออกมาประกาศชัยชนะการเลือกตั้ง หลังจากที่พรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ LDP คว้าเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรไปครองด้วยจำนวนมากกว่า 233 เสียง

โดยพรรค LDP คว้าเก้าอี้ไป 261 ที่ ซึ่งเป็นจำนวนเสียงข้างมาก โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งจำนวนเก้าอี้จากฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งนี้พรรคโคเมโตะซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลคว้าเก้าอี้ไปอีก 32 ที่ ส่งผลให้ทั้งสองพรรคร่วมรัฐบาลมีเสียงในสภารวมกันแล้ว 293 ที่นั่ง อย่างไรก็ตามจำนวนดังกล่าวถือเป็นจำนวนที่น้อยกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อน

ซึ่งนายกฯญี่ปุ่น กล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเรื่องที่ยาก อย่างไรก็ตามเขาให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนเศรษฐกิจด้วยการทุ่มเงินเป็นอย่างมากเพื่อฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้เขายังเคยประกาศอีกว่า เปลี่ยนนโยบายจากเสรีนิยมใหม่ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลชุดก่อนหน้านี้ โดยนายคิชิดะตั้งเป้าให้คนรุ่นใหม่สามารถสนุกไปกับเติบโตในชีวิตได้

ก่อนหน้านี้ นาย โยชิฮิเดะ สุงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลังจากที่ต้องเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากนายสุงะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การแพ่รระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงการจัดสรรวัคซีน

เจ้าหญิงมาโกะ สละฐานันดรศักดิ์ราชวงศ์ญี่ปุ่น แต่งงานกับสามัญชน ปชช. ญี่ปุ่นกังวลใจ

เปิดเรื่องราวเจ้าหญิงมาโกะ ที่ได้แต่งงานกับสามัญชน เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา และได้ทำการสละฐานันดรศักดิ์ราชวงศ์ญี่ปุ่น โดยการแต่งงานในครั้งนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะประชาชนรู้สึกว่าฝ่ายชายไม่เหมาะสม ชีวิตเจ้าหญิงมาโกะ ต่อจากนี้ไปอาจมีความเสี่ยงหลังการแต่งงานและอาจส่งผลเสียให้ราชวงศ์ญี่ปุ่นได้ ต้องคอยติดตามกันต่อไป

กลายเป็นงานวิวาห์เลือด หลังจากที่มือปืนอ้างว่าตัวเป็นสมาชิกกลุ่ม ตาลีบัน ยิงแขกในงานแต่งงานเสียชีวิต เพราะเปิดเพลง เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม สำนักข่าว CNN รายงานว่า สมาชิกกลุ่มตาลีบันสามคนได้ก่อเหตุยิงแขกในพิธิแต่งงานเสียชีวิต 3 ศพ และได้รับบาดเจ็บอีก 10 ราย ในทางตะวันออกของประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อช่วงคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา

โดย สำนักข่าวรายงานว่าสาเหตุของการก่อเหตุครั้งนี้ เนื่องจากทางผู้จัดงานได้เปิดเพลง ซึ่งทางกลุ่มตาลีบันไม่เห็นชอบต่อการเปิดเพลงในงานแต่งงานหรือภายงานต่างๆ อย่างไรก็ตามทางกลุ่มตาลีบันไม่ได้ออกกฏสั่งห้าม นับตั้งแต่ที่พวกเขาเข้ายึดอำนาจในเดือนกันยายนที่ผ่านมา

นาย ซาบิฮัลลาห์ มูจาฮิด โฆษกกลุ่มติดอาวุธตาลิบัน ได้กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่าทางกองกำลังติดอาวุธไม่สามารถสังหารประชาชนเนื่องจากพวกเขาเปิดเพลงได้ ซึ่งทางกองกำลังสามารถโน้มน้าวให้หยุดเล่นดนตรีได้ แต่ห้ามใช้กำลัง ซึ่งนาย มูจาฮิด จะทำการสืบสวนต่อไปว่าเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับเสียงเพลงจริงหรือไม่ หรือเป็นความแค้นส่วนตัว เบื้องต้นจับกุมผู้ก่อเหตุแล้วได้สองราย ส่วนคนที่สามหลบหนีไปได้

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุรุนแรงกับคนที่เล่นดนตรี หากย้อนกลับไปช่วงปลายเดือนสิงหาคม กลุ่มตาลีบันได้สังหารนักร้องพื้นบ้าน ด้วยการยิงเข้าที่ศีรษะ

ผ่านพ้นช่วงเวลาที่มาร์กาเร็ตได้นำพรรคอนุรักษนิยมชนะการเลือกตั้งมาได้ ต่อมาในอีก 39 ปี หรือ พ.ศ. 2565 ลิซ ทรัสส์ก็เดินตามรอยคว้าชัยชนะการเลือกตั้งมาสู่พรรคอนุรักษนิยมได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นอกจากที่ลิซ ทรัสส์จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งอันทรงเกียรติอย่างหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยม ซึ่งถือว่าเป็นพรรคการเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษ เธอยังสามารถจารึกชื่อ ‘ลิซ ทรัสส์’ ลงบนหน้าประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักรว่าเป็นนายกหญิงคนที่ 3 ของประเทศอังกฤษได้อีกด้วย

ในการแข่งขันเลือกตั้งครั้งนี้ ลิซ ทรัสส์ ได้รับชัยชนะจากการเข้าชิงกับ ริชี ซูแนค ด้วยคะแนนเสียง 81,326 เสียง ต่อ 60,399 เสียง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ปัจจุบันลิซ ทรัสส์กลายเป็นนายกอังกฤษ และนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 3 ของสหราชอาณาจักร

เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง